5 วิธีแนะนำการตั้งค่า Facebook อย่างไร ไม่ให้สูบแบต

5 วิธีแนะนำการตั้งค่า Facebook อย่างไร ไม่ให้สูบแบต

แอปพลิเคชัน Facebook นั้น คือปัจจัยลำดับต้นๆ ที่ส่งผลทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว เนื่องจากตัวแอปฯ มีการทำงานแบบเบื้องหลัง (Background) อยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะไม่ได้เปิดใช้งานในตอนนั้นก็ตาม

จริงอยู่ที่วิธีการแก้ไข ก็คือ การเปลี่ยนไปใช้ Facebook บนเบราว์เซอร์ แทนการติดตั้งแอปพลิเคชัน แต่คงจะแนะนำให้ผู้ใช้ทำแบบนั้นทั้งหมด ก็คงไม่ถูกต้องนัก เนื่องจาก Facebook เป็นแอปพลิเคชันที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก อีกทั้ง การใช้งานในรูปแบบของแอปพลิเคชัน ก็สะดวกมากกว่าการใช้งานบนเบราว์เซอร์ไม่น้อย

    ซึ่งในวันนี้ จะมาแนะนำ การตั้งค่าการใช้งาน Facebook ไม่ให้สิ้นเปลืองพลังงานแบตเตอรี่ มาดูกันว่า เราสามารถตั้งค่าแบบใดได้บ้าง

ปิดการทำงานของ Background App Refresh และ Location Services

    ถึงแม้ว่าฟีเจอร์ทั้ง 2 อย่าง นั่นก็คือ Background App Refresh และ Location Services จะมีประโยชน์สำหรับผู้ใช้งาน Facebook แต่ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้แบตเตอรี่ถูกสูบใช้งานไปมากเช่นกัน ถ้าหากปิดการทำงานของ 2 ฟีเจอร์ได้ ก็จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ไปมากทีเดียว ด้วยการเข้าไปที่ Settings > Facebook > Settings ซึ่งตรงส่วนของ Location ให้เลือกเป็น Never และปิดการทำงานของ Background App Refresh ด้วย

ปิดการเล่นวีดีโอแบบ Autoplay

    ทุกวันนี้วีดีโอกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นบน Facebook จะเห็นได้ว่า ผู้ใช้ส่วนมาก เริ่มโพสคลิปวีดีโอกันเสียมากกว่า แต่การจะให้คลิปวีดีโอดังกล่าว เล่นเองแบบอัตโนมัติ ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานแบตเตอรี่เช่นกัน อีกทั้งอาจเสีย data อินเทอร์เน็ตไปแบบสิ้นเปลืองอีกด้วย

    ซึ่งผู้ใช้สามารถตั้งค่า ปิดการเล่นคลิปวีดีโอแบบ Autoplay ได้ ด้วยการเข้าไปที่ แอปฯ Facebook > More เข้าไปที่ Settings > เลือก Account Settings > เลือก Videos and Photos แล้วตั้งค่าเป็น Never Autoplay Videos

 ตั้งค่าการแจ้งเตือนบน Facebook เสียใหม่

    แม้ว่าการแจ้งเตือน จะช่วยทำให้เราทันเหตุการณ์ข่าวสารล่าสุดได้ไว แต่ยิ่งมีการแจ้งเตือนปรากฏบนหน้าจอมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสิ้นเปลืองแบตเตอรี่มากเท่านั้น เนื่องจากหน้าจอติดอยู่ตลอดเวลานั่นเอง ถ้าหากไม่ต้องการทำให้แอปฯ Facebook เป็นตัวการทำให้แบตหมดไว ลองตั้งค่าการแจ้งเตือน Facebook เสียใหม่ ด้วยการเข้าไปที่ Settings > เลือก Notifications > เลือก Facebook แล้วเลือกการแจ้งเตือนให้เหมาะสมกับการใช้งาน

หมั่นเช็คขนาดของแอปฯ Facebook ถ้ากินพื้นที่มากเกินไป ให้ลบทิ้งแล้วติดตั้งใหม่

    Facebook ก็มีลักษณะคล้ายกับแอปฯ อื่นๆ เมื่อใช้งานไปนานๆ จะมีการสะสมข้อมูลเป็นจำนวนมาก และทำให้ตัวแอปฯ กินพื้นที่ภายในตัวเครื่องมากขึ้น จนไม่ทันสังเกตว่า สาเหตุที่ทำให้ iPhone เต็มเร็ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ Facebook นั่นเอง ซึ่งถ้าหากเป็นไปได้ ควรจะมีการลบแอปฯ Facebook ทิ้ง และติดตั้งเสียใหม่ ถ้าหากพบว่า ตัวแอปฯ มีขนาดที่ใหญ่เกินไป ซึ่งวิธีนี้ จะช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในตัวเครื่องได้อีกด้วย
ใช้ Facebook ในรูปแบบ Mobile Site แทน

    วิธีที่จะป้องกันไม่ให้ Facebook ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้สิ้นเปลืองแบตเตอรี่มากที่สุด นั่นก็คือ ใช้งาน Facebook ในรูปแบบของ Mobile Site แทน แล้วลบแอปฯ ตัวจริงออก แต่อย่าลืมว่า เวอร์ชัน Mobile นั้น จะใช้งานได้ไม่ลื่นเท่าแอปฯ ตัวจริง อาจจะมีสะดุดบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา ซึ่งถ้าหากแบตเตอรี่หมดเร็วจนเกินเยียวยาแล้ว อยากให้เลือกวิธีนี้ เป็นทางเลือกสุดท้ายครับ
บทความจาก techmoblog.com