(Dual Boot) ลง Windows 7 และ Windows 10 ในเครื่องเดียวกัน
หากใครที่ได้อัพเดท Windows 7,8 ที่เป็นของแท้ไปเป็น windows 10 เข้าใจดีว่าผู้ใช้ Windows 10 ยังกังวลอยู่เพราะ Windows 10 ยังใหม่กลัวการเข้ากันกับโปรแกรมที่ใช้อยู่เป็นประจำ กลัวใช้ไม่เป็นแล้วจะกลับมาใช้ Windows 7 ของเดิมก็จะต้องติดตั้งใหม่ อีกอย่างหนึ่งตอนนี้ Windows 10 หมดเวลาที่ปล่อยซึ่งหากใครที่ใช้ของแท้ก็น่าเสียดายเพราะ microsoft ได้หยุดปล่อยให้อัปเดทฟรีแล้วหากต้องการอัปเดทเป็น Windows 10 ก็ต้องเสียเงิน โดย Windows 10 Home ราคา 5,199 บาท Windows 10 Pro ราคา 8,999 บาท ก็เอามันแบบลูกผสมเลยก้แล้วกันคือ Dual Boot โดยไม่ต้องลงใหม่
ขั้นตอนการทำ ก็เหมื่อนกับการลง Windows โดยปกติทั่วไป แค่เปลี่ยนไดร์เท่านั้น
ขั้นตอนที่ 1 แบ่งพื้นที่ฮาร์ดดิส โดยใช้โปรแกม MiniTool Partition Wizard Free หรือใครที่ไม่อยากลงโปรแกรม ตัว Windows ก็มีเครื่องมือในการจัดการพื้นที่ ฮาร์ดดิส มาให้แล้วโดยไปที่ คลิกขวา ที่ MY computer เลือก Manage เลือก Disk Management จะเห็นรายละเอียดของไดรฟ์ทั้งหมดในเครื่อง ในที่นี้เราจะติดตั้ง windows 7 ที่พาร์ติชันเดียวกับ Windows 10 ให้คลิกขวาที่พื้นที่ของไดรฟ์ C: เลือกคำสั่ง Shrink volume
* นี้เป็นแค่การยกตัวอย่างนะครับ ไม่จำเป็นต้องเลือกไดร์ C: ก็ได้ ไดร์อื่นก็ได้ที่มพื้นที่มากพอที่เราสมารถทำ Dual Boot ติดตั้ง Windows ตัวที่ 2ได้ ในตัวอย่างนี้ พื้นที่ฮาร์ดดิสไดร์ C: ของผมมีอยู่ 300 Gb ซึ่งจะแบ่งอย่างละครึ่งคือ Windows 10 = 150 Gb ใช้ติดตั้ง Windows 7 =150 Gb เครื่องมือตัวนี้มันให้พิมพ์เป็น MB ก็เท่ากับ 150,000 Mb
- จะมีหน้าต่างเพื่อให้เรากรอกพื้นที่ตามที่ต้องการสำหรับ ?Dual Boot แล้ว?ใส่ตัวเลขพื้นที่ในช่อง Enter the amount of space to shrink in MB เลือกเอานะครับว่าจะเอาเท่าไรโดยปกติ Windows 7 จะใช้ประมาณ 20 GB สำหรับตัววินโดวส์ล้วนๆ เมื่อใส่ตัวเลขแล้ว ให้คลิก Shrink
- หน้าต่อมาจะเห็นพื้นที่ว่างเกิดจากการหดไดรฟ์ C: สังเกตว่ามีคำว่า Unallocated แสดงอยู่ ให้สร้างพาร์ทิชันใหม่คลิกขวาที่พื้นที่นี้ เลือกคำสั่ง New Sample Volume ตั้งชื่อไว้เลยเพื่อไม่ให้สับสนในเวลาเลือกพาร์ทิชันในการทำ ?Dual Boot ติดตั้ง Windows 7 ตัวอย่าง ผมตั้งว่า Windows 7
ใช้ MiniTool Partition Wizard Free
ในการแบ่งพื้นที่โปรแกรมก็คล้ายกับของ Windows แต่โปรแกรมตัวนี้สะดวกตรงที่คนไม่ทราบขนาดพื้นที่ ว่าจะแบ่งอย่างไร โดยเราสามารถปรับขยายพื้นที่แค่เลือนเมาส์ โดยคลิกขวาที่ ไดร์ที่ต้องการปรับขนาดพื้นที่ เลือก Move/Resize แล้วเลือกปรับขนาดพื้นที่ตามต้องการ แล้วกด ok ที่ไดร์ที่เราปรับไว้จะเป็น Unallocated แล้วคลิกขวาเลือก create ใส่ชื่อตรง Partition Label เป็น Windows 7 (หรือจะเป็นชื่ออืนก็ได้ป้องกันการลงไดร์ผิด) กด ok หลังนั้น กด Appy ตรงมุมซ้ายด้านของโปรแกมรอสั่งครู่ เราก็จะได้ขนาดพื้นที่ตามที่เราปรับไว้
ขั้นตอนการติดตั้ง ให้เราบูตจากแผ่นติดตั้ง Windows 7 (DVD) หรือ USB Flash Drive Bootable ก็ได้แล้วแต่สะดวกของเรานะครับ แต่การติดตั้งต้องเลือกพาร์ทิชันที่ Windows 7 ที่เราได้ทำไว้ในขั้นตอนแรก
ซึ่งหลังจากเราทำการติดตั้งเรียบร้อยแล้ว เมื่อ Boot เครื่องเพื่อใช้งานเราจะพบกับหน้าเมนูบูตที่มี Windows 7 และ Windows 10
การตั้งค่าการ boot windows ด้วย EasyBCD
การใช้โปรแกมนี้ช่วยในการจัดการ boot windows จะทำให้สะดวกขี้นมากการใชงาน หากเราใช้โปรแกรมนี้มันมีปัญหาอยู่ว่า เมื่อเราทำการเลือก Windows ตัวใดตัวหนึ่งมันจะทำการ boot เครื่อง 1รอบก่อนจะเข้า windows ที่เลือก แต่ถ้าใช้ EasyBCD ช่วยจะเข้า windows ทันทีเมื่อเรากดเลือก
- เปิดโปรแกมขึ้นมา ไปที่ Edit Boot Menu เราสามารถเลือกได้ว่า ให้ Windows ตัวใดเป็นตัว boot ตัวแรกโดยเลือก up และ Down แล้วให้ติ๊กลูกศรด้านหลัง แล้วกด save setting
- backup ไฟล์ boot windows ไว้เพื่อ หาก windows ตัวใดตัวหนึ่งมีปัญหา เราไม่จำเป็นต้องลง windows ใหม่ทั้ง 2 ตัว เราแค่ลงตัวเดียวตัวที่ปํญหา แล้ว restore backup กลับมาโดยใช้ EasyBCD โดยไปที่(1) BCD Backup/Repair (2)แล้วเลือกไดร์ที่ต้องการเก็บไฟล์ไม่ใช้ไดร์ที่ลง window นะครับ หรือ แนะนำอัปโหลดไว้ที่ google dirve ก็ได้ (3)หลังจากเลือกพื้นที่เก็บไฟล์ได้แล้วกด Backup Setting
- Restore ไฟล์ boot windows (1) เลือกไฟล์ boot windows ที่ backup ไว้ (2) กด Restore Backup
* ถ้าต้งการลบ windows ตัวใดตัวหนึ่งออก ไปที่ Edit Boot Menu แล้วเลือก windows ที่ต้องการลบแล้วกด Deletd ส่วนโปรแกรม EasyBCD ก็แนะนำให้ uninstall ออกได้ครับเพราะไม่มีผลกระทบต่อระบบแต่อย่างไร ส่วนใครที่มี windows 7 ของแท้นั้น เราก็ยังสามารถลงได้ตามปกติ แม้ว่า อัปเดทเป็น windows 10 แล้วก็ตาม ถึงแม้จะเป็นฮาร์ดดิสคนละตัวกันก็ตามแต่ต้องเป็นเมนบอร์ตัวเดิม
ข้อมูล notebookspec
COMMENTS