Android One คืออะไร ถ้าคุณรู้แล้วจะหลงรัก

Android One คืออะไร ที่คุณรู้แล้วจะหลงรัก

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทาง Google ได้จัดงาน Google I/O เหมือนเช่นทุกๆ ปี และหนึ่งในไฮไลท์สำคัญคือการเปิดตัวโปรเจคใหม่ของ Android นั่นคือ “Android One” ซึ่งทาง Google ได้วาง เป้าหมาย ต้องการให้ Android One เป็นมาตรฐานสำหรับการพัฒนาสมาร์ทโฟนระดับราคาย่อมเยาที่สุดเพื่อให้คนทั่วโลกได้ใช้สมาร์ทโฟนที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด ในงบประมาณเพียง 100 เหรียญสหรัฐเท่านั้น ถ้าว่าไปก็เท่ากับเงินประมาณ 3,000 กว่าบาทครับ โดยมีการกำหนดสเปคเครื่องไว้คร่าวๆดังนี้

• หน้าจอ 4.5 นิ้ว (หรืออาจเริ่มที่ 4.3 นิ้วก็เป็นไปได้)
• Dual-Core CPU RAM 1 GB, ROM 4 GB
• รองรับการใช้งานแบบ Dual SIM (สองซิม)
• รองรับการเพิ่มหน่วยความจำด้วย microSD Card (เพื่อลงแอพฯและเก็บข้อมูล)
• FM Radio
• และอื่นๆ อาทิเช่น กล้องถ่ายรูปหลัก กล้องหน้า ส่วนนี้ผู้ผลิตเลือกเพิ่มเติมได้เอง

และเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา ทาง i-mobile ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ “IQ II” ที่มีความพิเศษตรงที่ว่าเป็น Android One รุ่นแรกที่ขายในประเทศไทย แต่ว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้ว่า “Android One” มันมีความพิเศษหรือแตกต่างจากสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นอื่นๆ ที่วางขายกันอยู่ตรงไหน วันนี้ จะมาขอแถลงไขบอกเล่าถึงความน่าสนใจของ Android Oneว่ามันโดดเด่นและน่าสนใจยังไร

Android One นั้นจะมาในสภาพที่เรียกว่า “Android Stock ROM version” หรือพูดง่ายๆ ว่าเป็นซอร์ฟแวร์แบบฉบับมาตรฐาน Android อย่างที่เราเคยเห็นกันใน Nexus Phone ซึ่งคาดว่าจะใช้ “Android L” เวอร์ชั่น โดยไม่มีการปรุงแต่งระบบเมนู หรือ Launcher ใดๆ ครอบอยู่ เพื่อให้การทำงานนั้นสามารถรีดพลังฮาร์ดแวร์ได้อย่างเต็มที่ และสามารถอัพเดตซอร์ฟแวร์ได้อย่างรวดเร็วก่อนใครเมื่อมีเวอร์ชั่นใหม่ออก โดยไม่ต้องรอ ไม่เหมือนกับสมาร์ทโฟนค่ายยักษ์ใหญ่ ที่ผู้ใช้ต้องมารอว่าเมื่อไรจะมีอัพเดตมาสักที เมื่อเห็น Google ปล่อยเวอร์ชั่นใหม่ออกมาแล้ว ทั้งนี้เป็นเพราะสมาร์ทโฟนค่ายยักษ์ใหญ่ (อาทิเช่น Samsung, HTC, LG, Sony, OPPO) นั้นมักจะมีระบบเมนู (User Interface) แบบสไตล์ของใครของมัน แต่ไส้ในจริงๆ แล้วเป็น Android เหมือนกันหมด พอจะอัพเดตแต่ละครั้งก็ต้องเอาซอร์ฟแวร์ของทาง Google มาโมดิฟายเข้ากับระบบเมนูของตัวเองก่อน ถึงจะปล่อยอัพเดตได้ ทำให้กว่าจะได้ใช้ซอร์ฟแวร์เวอร์ชั่นใหม่ก็ต้องรอไป 3-5 เดือนเลยทีเดียว ไม่เหมือนกับ iOS ของ Apple ที่เมื่อเปิดให้อัพเดตซอร์ฟแวร์ใหม่เมื่อไร ทุกคนก็จะทำได้ทันที ไม่ต้องรอใดๆ ครับ


ดูแลกันยาวๆ ทั้งตัวเครื่องและอัพเดตต่อเนื่องยาวนานถึง 2 ปี

Android One นั้นจะได้รับการอัพเดตเวอร์ชั่นโดยตรงจาก Google ไปอย่างน้อย 2 ปี ถ้านับตั้งแต่ตอนนี้ที่เป็น Android 5.0 Lollipop ก็จะได้อัพเดตเป็น Android M และ N ในอนาคตอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ตัวเครื่องผู้ผลิตก็จะรับประกันการใช้งานตัวเครื่องที่ปกติจะแค่ 1 ปี เพิ่มให้เป็น 2 ปีเหมือนกันอีกด้วย เรียกได้ว่าซื้อมาทีเดียวอยู่กันไปยาวๆ อย่างน้อย 2 ปีเลย

ประสบการณ์ใช้งาน GOOGLE SERVICE ครบถ้วนสมบูรณ์


อีกเหตุผลที่ Google ทำ Android One ขึ้นมา ก็เพื่อที่จะให้ผู้ใช้ได้เข้าถึงอินเทอร์เนตผ่านสมาร์ทโฟนได้ง่ายขึ้น รวมถึง Google ก็มีบริการต่างๆ เอาไว้รองรับครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น Youtube, Google Search, Google Maps, Gmail, Google Photos, Google translate ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นบริการฟรีทั้งหมด

ตัวเครื่องที่เข้ามาในโครงการนี้ได้ ทาง Google จะทำการตรวจและรองรับมาตรฐานว่าสามารถใช้งาน Google Service ทั้งหมดได้อย่างลื่นไหลและไม่มีปัญหา เพื่อตอบสนองการใช้งานของคุณได้ทั้งดูหนัง, ฟังเพลง, ค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เนต, นำทางในแผนที่, รับส่งอีเมล์, แบ็คอัพเก็บรูปภาพไว้ในคลาวด์, ผู้ช่วยในการแปลภาษา ฯลฯ

มาพร้อมกับแพคเกจการใช้งานอินเทอร์เนตจากโอเปอเรเตอร์

Android One จะไม่ได้มาแค่ตัวเครื่องสมาร์ทโฟนเพียงอย่างเดียว Google จะกำหนดให้การขายในแต่ละประเทศจะต้องมีแพคเกจบริการอินเทอร์เนตผ่านมือถือให้มาด้วย

อย่างที่เราทราบว่า Android นั้นเป็นระบบปฏิบัติการแบบ Open Source หรือพูดง่ายๆ ว่า ใครจะเอาไปดัดแปลงหรือเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ได้ ตัวอย่างที่เราได้เห็น Nokia นั้นนำเอา Android Open Source Code ไปดัดแปลงให้กลายเป็น X Platform ของตัวเอง แล้วกลายเป็นสมาร์ทโฟนอีกสัญชาติหนึ่งไปเลย ในอุตสาหกรรมผู้ผลิตสมาร์ทโฟนในประเทศจีนนั้นเติบโตขึ้นมหาศาลเพื่อความยืดหยุ่นตรงนี้ ทำให้ผู้ผลิตชิปเซตอย่าง Qualcomm, MediaTek, Spredtrum, Intel, 
Broadcom, Samsung และอื่นๆ ได้ทำการพัฒนาชุดระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่นล่าสุด ให้เข้ากับตัวชิปเซตของตนเอง ก่อนที่จะส่งต่อไปเป็นแบบ Total Package ให้กับโรงงานที่สั่งซื้อชิปเซตเพื่อไปผลิตเป็นสมาร์ทโฟน Android ต่อไป ตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งไปเลือกต่อได้ว่าส่วนอื่นๆ นั้นต้องการให้เป็นอย่างไร ตามต้นทุนราคาที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ขนาดหน้าจอ ซึ่งยิ่งใหญ่ก็ยิ่งแพงขึ้น หน่วยความจำอย่าง RAM/ROM ซึ่งแน่นอนว่าถ้ายิ่งเยอะก็ยิ่งดีขึ้น แต่ถ้าผลิตเป็นสมาร์ทโฟนราคาต่ำมากๆ ก็มีสเปคเริ่มที่ RAM 256 MB, ROM 512 MB แต่กระนั้นก็ถือว่าเป็นสเปคที่ต่ำจริงๆ การใช้งานก็อย่าไปคาดหวังอะไรมากนะครับ สเปคอื่นๆ ที่จะเกี่ยวข้องต่อไป ก็เป็นจำพวก กล้องถ่ายรูปหลัก กล้องหน้า การรองรับ microSD การ์ด การรองรับ FM Radio หรือแม้แต่ให้รองรับการใช้งาน Digital TV (DTV)

และรุ่นแรกที่ออกมาสำหรับ Android One ในประเทศไทย คือ mobile IQ II ถือเป็น Android One รุ่นที่สเปคสูงเอาเรื่อง (ดีกว่ารุ่นที่ขายในประเทศอื่นแทบจะทุกรุ่น) กับเสปคบาดใจอย่าง

• หน้าจอ: 5.0 นิ้ว HD IPS
• หน่วยประมวลผล: 1.2 GHz. Quad Core (Snapdragon)
• 2G: GSM 900 / 1800 MHz
• 3G: 850 / 2100 MHz
• 4G LTE: 1800 / 2100 MHz
• หน่วยความจำภายใน: ROM 16 GB / RAM 1 GB
• หน่วยความจำภายนอก: รองรับ MicroSD สูงสุด 32 GB
• กล้องหลัง: 8 ล้านพิกเซล AF BSI Flash
• กล้องหน้า: 2 ล้านพิกเซล
• การเชื่อมต่อ: WiFi / WiFi Hotspot
• GPS: GPS, A-GPS
• แบตเตอรี่: 2500 mAh
• รองรับการใช้งานแบบ 2 SIM

ดูจากสเปคของ i-mobile IQ II แล้วถือว่าไม่ธรรมดากับราคาขายในไทยแค่ 4,444 บาทเท่านั้น และตอนนี้ชาวไทยก็สามารถหาซื้อกันได้แล้วทั้งทางช็อปของ i-mobile รวมถึงช่องทางออนไลน์ต่างๆ ที่สั่งซื้อชำระเงินเรียบร้อยก็จะมีเครื่องจัดส่งตรงไปถึงบ้านได้เลย



อยากที่บอกการได้มาซึ่งสมาร์ทโฟนราคาต่ำที่สุดในสเปคฮาร์ดแวร์ที่ต่ำที่สุด อาจจะตอบโจทย์ได้เฉพาะว่าสมาร์ทโฟนราคาถูกสุด แต่ไม่ได้บอกว่าสมาร์ทโฟนนั้นจะมีคุณภาพและประสิทธิภาพที่ดีได้เสมอไป ประสบการณ์ผู้ใช้ก็เป็นสิ่งสำคัญส่วนนี้เป็นสิ่งที่ทาง Google ก็เลยออกมาวางมาตรฐานของ Android One เพื่อให้ สมาร์ทโฟนที่ราคาประหยัดที่สุดนั้น สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดได้บนความเป็น Android สมาร์ทโฟน หนึ่งเดียวที่กำลังครองโลกการสื่อสารบนโทรศัพท์มือถือในขณะนี้… ต้องมาดูต่อไปครับว่าอนาคตสมาร์ทโฟนที่ถูกที่สุดอาจจะไม่ตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้ในระดับล่างก็เป็นได้ i-mobile IQ II ก็ถือเป็นตัวเลือกหนึ่งสำหรับตอนนี้
plazaphone,whatphone