เปิดตัว Android M Developer Preview กับ 6 ฟิวเจอร์ใหม่
เป็นไปตามคาดกับกาเปิด ระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุด "Android M Developer Preview " สำหรับนักพัฒนาในงาน Google I/O 2015 (ซึ่งคงจะมือซื่อเต็มเมื่อปล่อยให้บุลคลทั่วไปได้ใช้งาน) ซึ่งเน้นไปที่การปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้เป็นหลัก พร้อมแก้ไขข้อบกพร่องพื้นฐานต่างๆ ซึ่ง Android M เวอร์ชัน Developer Preview เริ่มปล่อยให้กับ Nexus 5, Nexus 6, Nexus 9 , Nexus Player และ SDKs แบบจำลอง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สำหรับเวอร์ชันในภาคประชาชนทั่วไปจะเริ่มปล่อยออกมาในราวๆ ไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ มาดูกันสิว่ามีอะไรใหม่บ้างในเวอร์ชั่นนี้
- Permissions ให้ผู้ใช้กำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงแอพได้
เป็นการอนุญาตให้ผู้ใช้ควบคุมการใช้งาน และสิทธิของแอปต่างๆ รวมถึงสามารถยกเลิกการใช้งานสิทธิบางประการได้ และสามารถเลือกดูการให้อนุญาตจากประเภทของสิทธิในการใช้งานด้วย ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงการจัดการหรือเปลี่ยนแปลงสิทธิ์ของแอพฯ ได้ทั้งหมด
- Google Now on Tap
โดยฟีเจอร์ on Tap ที่มากับ Google Now ใน Android M สามารถบอกข้อมูลเพิ่มเติมในขณะเปิดแอพฯ ใดแอพหนึ่งได้ ยกตัวอย่างเช่น ในขณะที่คุณกำลังอ่านข่าวเกี่ยวกับหนังเรื่องใดเรื่องหนึ่งอยู่ เมื่อแตะที่ปุ่มโฮมค้างไว้ ฟีเจอร์ Google Now on Tap จะดึงข้อมูลเกี่ยวกับหนังเรื่องนั้นๆ มาแสดงเป็นแท็บปรากฎจากด้านล่างหน้าจอในทันที
– หรือจะในกรณีที่คุณกำลังแชทกับเพื่อนๆ ผ่าน Hangouts เกี่ยวกับร้านอาหาร เมื่อเรียกใช้งาน Google Now on Tap จะทำการเรียกข้อมูลของร้านอาหารนั้นมาแสดงให้ทราบได้เช่นกัน
– สุดท้ายในกรณีที่คุณกำลังเล่นเพลงใน Spotify นอกจากการใช้งาน Google Now on Tap เหมือนสองกรณีขั้นต้นแล้ว ยังสามารถสั่งงานด้วยเสียงเพื่อค้นหาว่าเพลงที่กำลังฟังอยู่ใครเป็นคนร้อง
- Chrome custom tabs
กูเกิล ระบุว่า Google Now on Tap เป็นการทำให้การท่องเว็บของผู้ใช้งานง่ายขึ้น และช่วยให้นักพัฒนาสามารถเพิ่มเติมความสามารถต่างๆ ลงไปได้ เช่น
- มีการจดจำการล็อกอินของผู้ใช้ หรือการอนุญาตให้แอปเรียก Chrome ขึ้นมาในการเรียกดูไฟล์ของแอปที่ใช้งานอยู่ แทนการต้องไปเปิด Chrome แยกต่างหาก
-ตัวแอพสามารถใช้เรียก Chorme ในลักษณะ WebView ได้ พร้อมสามารถเพิ่มสีสัน ปุ่มคำสั่งบางอย่างได้
นอกจากนั้น Chrome Custom Tabs ยังสนับสนุนระบบการล็อกอินแบบอัตโนมัติ รวมถึงช่วยจดจำพาสเวิร์ดของผู้ใช้ด้วย
- Android Pay
เป็นระบบการทำธุรกรรมทางการเงินตัวใหม่ที่มาในชื่อ “Android Pay” ซึ่งรองรับการใช้งานในร้านค้ากว่า 700,000 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา และเป็นระบบที่กูเกิลอ้างว่าสะดวกรวดเร็วกว่าระบบเดิม โดยมีบัตรเครดิตยักษ์ใหญ่อย่าง อเมริกันเอ็กซ์เพรส, วีซ่า, มาสเตอร์การ์ด และ Discovery ให้การสนับสนุนแล้ว ส่วนค่ายผู้ให้บริการโทรคมนาคมของสหรัฐอเมริกาอย่าง AT&T, เวอไรซอน และทีโมบายก็พร้อมแล้วสำหรับระบบดังกล่าวเช่นกัน
สมาร์ทโฟนในแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ที่มีชิป NFC สามารถใช้ Android Pay ได้เลย ส่วนระบบปฏิบัติการที่รองรับแอป Android Pay นั้นต้องเป็นแอนดรอยด์ 4.4 คิทแคทขึ้นไป
- OS-Level Support For Fingerprint Scanners
เป็นการจัดทำระบบสแกนลายนิ้วมือมาตรฐานสำหรับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ได้เอาไปใช้กัน โดยในเวอร์ชันของ Android M ซึ่ง Fingerprint (ระบบสแกนลายนิ้วมือ) ใช้สำหรับปลดล็อคหน้าจอหรือใช้ยืนยันการซื้อสินค้าบน Google Play
- App links
ทุกครั้งที่เปิด URL หลายคนที่ใช้ Android อาจจะหงุดหงิดกับป็อบอัพที่เด้งขึ้นมาถามว่าจะเปิด URL นี้กับแอพฯ ใด ซึ่งใน Android M ได้มีการจัดสรรระบบใหม่ ที่มีความฉลาดสามารถตรวจจับ URL เพื่อเปิดแอพฯ ที่ตรงกับ URL ได้ในทันที เช่น หากยูสเซอร์คลิกลิงก์ของทวิตเตอร์ในอีเมล ระบบจะเปิดแอปทวิตเตอร์ให้เลยโดยไม่ต้องมาถามยูสเซอร์เหมือนในอดีต
- โหมด Doze และ USB Type C
อีกหนึ่งรูปแบบการจัดการด้านพลังงานสำหรับอุปกรณ์ Android โดยโหมด Doze มาพร้อมกับฟังก์ชันใหม่ชื่อ Doze ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในโหมดสแตนด์บาย โดยใช้ตัวจับการเคลื่อนไหว (Motion Detector) หากระบบพบว่าเครื่องไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เลยก็อาจเป็นไปได้ว่า เจ้าของเครื่องนอนหลับ หรือไม่ก็วางเครื่องทิ้งเอาไว้บนโต๊ะ ฯลฯ ระบบจะลดการใช้พลังงานของเครื่องลง ซึ่งทางผู้บริหารกูเกิลได้ทดสอบประสิทธิภาพของฟีเจอร์ใหม่นี้ผ่าน Nexus 9 สองเครื่อง เครื่องแรกรัน Lollipop เครื่องที่สองรัน Android M และพบว่า เครื่องที่รัน Android M สามารถประหยัดพลังงานได้มากกว่า 2 เท่าเลยทีเดียว และถึงแม้จะอยู่ใน Doze Mode ผู้ใช้ก็ยังสามารถรับการแจ้งเตือนสำคัญๆ ได้ด้วย
นอกจากนี้ Android M ยังรองรับ USB Type-C ซึ่งทำให้การชาร์จรวดเร็วขึ้น และสามารถใช้สมาร์ทโฟนเป็นตัวจ่ายพลังงานให้แก่อุปกรณ์อื่นๆ ได้ด้วย
ก็ค่อยดูกันต่อไปเมื่อ Android M เวอร์ชั่นเต็มออกมาจะเป็นอย่างไรหรือจะมีอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่
ที่มา positioningmag,techcrunch








COMMENTS